หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ “เที่ยวก็ดี มูก็ได้” ใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้ทั้งแรงบันดาลใจและพลังแห่งความศรัทธาในคราวเดียวกัน ขอแนะนำ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สถานที่ศิลปะและมูเตลูสุดฮิตย่านสมุทรปราการ ที่ได้รับความนิยมเสมอมา ไม่ว่าจะจากสายถ่ายรูป สายบุญ หรือสายมู ต่างก็มาเยือนที่นี่กันทั้งสิ้น
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดย่านสมุทรปราการ
ด้วยความใหญ่โต โดดเด่น น่าเกรงขาม ทำให้พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณไม่ได้เป็นแค่แลนด์มาร์กด้านงานประติมากรรมไทยเท่านั้น แต่ด้วยความศรัทธาจากผู้สร้างและผู้มาเยือน จึงทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่ช่วย เติมพลังใจให้กับใครหลาย ๆ คน หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าชีวิตยังขาดบางอย่างหรือร่างกายต้องการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บำบัดใจ นี่คือสถานที่ที่ควรมาเยือนเป็นอย่างยิ่ง
ประวัติพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ สถาปัตยกรรมแห่งศรัทธา
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณก่อตั้งโดย “คุณเล็ก วิริยะพันธุ์” นักธุรกิจผู้มีหัวใจรักศิลปวัฒนธรรมไทย ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณและปราสาทสัจธรรมที่จังหวัดชลบุรี โดยเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2537 และเปิดให้เข้าชมในปี พ.ศ. 2546
ตัวอาคารเป็นรูปช้างเอราวัณขนาดยักษ์ สูง 43.6 เมตร (เทียบเท่าตึก 14-17 ชั้น) ตัวช้างทำจากทองแดงกว่า 100,000 แผ่น โดยช่างจะทำการตีมือทีละชิ้น ภายในอาคารแบ่งเป็น 3 ชั้น ตามแนวคิดไตรภูมิกถา ดังนี้
- ชั้นบาดาล แสดงวัตถุโบราณจากอารยธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ชั้นโลกมนุษย์ จัดแสดงงานศิลปะไทย เน้นเรื่องธรรมะ ความสงบ
- ชั้นจักรวาล ภายในตัวช้าง มีพระพุทธรูปและโดมกระจกสีงดงาม
ความศักดิ์สิทธิ์ของช้างเอราวัณ ไหว้ดี ชีวิตดี
คัมภีร์ไตรภูมิกถา ได้พรรณนาความใหญ่โตโอฬารของช้างเอราวัณไว้อย่างละเอียดพิสดารมาก กล่าวว่า
“ช้างเอราวัณเป็นช้างที่มีขนาดใหญ่มหึมา ผิวกายสีขาว มีหัว 33 หัว แต่ละหัวมีงาเจ็ดงา งาแต่ละอันยาวสี่ล้านวา แต่ละงามีสระโบกขรณีเจ็ดสระ แต่ละสระมีกอบัวเจ็ดกอ แต่ละกอมีดอกบัวเจ็ดดอก แต่ละดอกมีกลีบเจ็ดกลีบ แต่ละกลีบมีธิดาฟ้อนรำอยู่เจ็ดองค์ แต่ละองค์มีบริวารอยู่อีกเจ็ดนาง”
แม้รูปลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณจะไม่เหมือนกับคำบรรยายในคัมภีร์ไตรภูมิกถา โดยสร้างเป็นช้าง 3 เศียรเพื่อความเหมาะสมด้านวิศวกรรม แต่ยังคงสื่อนัยยะถึงความอุดมสมบูรณ์และพลังคุ้มครองในฐานะของพาหนะศักดิ์สิทธิ์ของพระอินทร์ผู้เป็นจอมทัพแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
มีเสียงร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ของช้างเอราวัณแห่งนี้มากมาย หลายเสียงยืนยันว่าแรงจริง และได้จริงตามคำขอ ผู้คนมักมากราบไหว้เพื่อขอพรเรื่องความสำเร็จในชีวิต โชคลาภ การงาน การเงิน ความรัก ความสงบสุขในครอบครัว ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และเสริมบุญบารมี
วิธีบูชาที่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
เราจะไม่สวดบูชาช้างเอราวัณโดยตรง แต่จะสวดบูชาพระอินทร์ผู้ทรงช้างเอราวัณ เพื่อน้อมนำกำลังจากพระอินทร์มาร่วมอำนวยพรให้เราด้วยอีกแรงหนึ่ง โดยผู้บูชาเตรียมดอกไม้ ธูป เทียน และของไหว้ให้พร้อม
จากนั้นจุดธูปไหว้ที่หน้าช้างเอราวัณ พร้อมสวดบทบูชาพระอินทร์อย่างตั้งใจ ดังนี้
“เอราวะณัสสะ นามะ เทวะราชะกุญชะรัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะสิทธิ ภะวะตุ เม ฯ” แปลว่า “ด้วยอานุภาพของพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ขอความสําเร็จทุกประการจงมีแก่ข้าพเจ้า ฯ”
แนะนำให้มากราบขอพรในช่วงวันเกิด ช่วงขึ้นปีใหม่ หรือก่อนเริ่มต้นทำการสิ่งใดใหม่ ๆ และหากกล่าวบนบานสิ่งใดไว้ ควรแก้บนตามคำขอ
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ค่าเข้าชม มีราคาดังนี้
- คนไทย ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 125 บาท
- ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 250 บาท
- เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 18.00 น.
มีบริการ Audio Guide ภาษาไทย, อังกฤษ, จีน, เกาหลี และรัสเซีย
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเหมาะกับใคร?
- คนที่ชอบงานศิลปะไทยประยุกต์ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์
- ครอบครัวที่อยากพาเด็ก ๆ มาเรียนรู้นอกห้องเรียน
- ช่างภาพ คนที่รักการถ่ายภาพ
- ผู้ที่ต้องการเติมพลังใจ รับพลังบวกให้ชีวิต ผ่านสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
บ้านทาวน์โฮมจากเมซัน เพื่อชีวิตที่เป็นสุขสำหรับคุณ
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่อยากมู อยากมีชีวิตที่สุขสงบ และอยากมีบ้านที่เดินทางไปขอพรช้างเอราวัณ ได้ง่าย ๆ โครงการ ทาวน์โฮม สุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ และโครงการ M Venue (พระราม 3 – ประชาอุทิศ 27) จาก Maison Development คือคำตอบที่ใช่
✅โครงการพรีเมียมทาวน์โฮม ดีไซน์โมเดิร์น ฟังก์ชันครบ
✅อยู่ใกล้ทั้งจุดขึ้น-ลงทางด่วน ใกล้แม่น้ำ และไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
✅เหมาะสำหรับครอบครัวที่อยากใช้ชีวิตในเมือง แต่ยังเข้าถึงธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมได้ง่าย
✅เดินทางสะดวกทั้งเข้าเมืองและออกไปไหว้พระ เติมบุญเสริมดวง
นัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการเลยที่ โทร 02-2953397-8
ข้อมูลอ้างอิง
- พิพิธภัณฑ์เอกชนช้างเอราวัณโลหะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสันติภาพและมวลมนุษยธรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.erawanmuseum.com/#erawanmuseum