"เลี้ยงลูกเชิงบวก" ส่งเสริมการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวก ช่วยให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

เรื่องAdminCustomer

       การเลี้ยงลูกไม่ใช่แค่การเลี้ยงดูให้เขาเติบโต แต่คือการสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และทัศนคติ การเลี้ยงลูกเชิงบวก หรือ Positive Parenting จึงกลายเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับจากนักจิตวิทยาและผู้ปกครองทั่วโลก เพราะเน้นความรัก ความเข้าใจ และการสื่อสารที่เปิดใจ แนวคิดนี้ไม่เพียงช่วยให้เด็กเติบโตมาอย่างมั่นใจและเข้าใจตัวเอง แต่ยังช่วยเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้น ซึ่งถือเป็นรากฐานของการมีสุขภาพจิตดีในระยะยาว เป็นการสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพและความรับผิดชอบของเด็ก ๆ ให้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต

 

การเลี้ยงลูกเชิงบวกคืออะไร ?

Positive Parenting หรือ การเลี้ยงลูกเชิงบวก คือ การเลี้ยงดูที่เน้นการใช้ความรัก ความเข้าใจ และสื่อสารกับลูกอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่พึ่งพาความรุนแรงหรือการลงโทษ เป้าหมายหลักคือช่วยให้เด็กเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง รู้วิธีจัดการกับปัญหา เติบโตขึ้นอย่างมั่นใจ มีความรับผิดชอบ และมีทัศนคติในการเลี้ยงดูคนอื่นในอนาคตอย่างเข้าใจ

การเลี้ยงลูกแบบนี้ ไม่ใช่แค่ทำให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ แต่ยังพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นและอบอุ่นมากขึ้นอีกด้วย

 

เทคนิค “เลี้ยงลูกเชิงบวก” ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวกไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเริ่มต้นได้ทันที แค่ปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำได้ โดยมีเทคนิคดังต่อไปนี้ 

 

ใช้คำพูดเชิงบวกและสื่อสารอย่างมีเหตุผล

การเลี้ยงลูกเชิงบวกไม่ใช่การชมอย่างไม่มีเหตุผล แต่เป็นการสื่อสารอย่างเข้าใจ โดยให้หลีกเลี่ยงคำว่า “ห้าม” หรือ “อย่า” โดยไม่จำเป็น เปลี่ยนเป็นการสื่อสารแบบ I-Message เป็นการให้คำแนะนำแบบตั้งใจ ไม่ใช่สั่งการ ตัวอย่างเช่น 

ตัวอย่างคำพูด “ห้าม” หรือ “อย่า”

การสื่อสารแบบ I-Message 

หยุดตะโกนกันเดี๋ยวนี้!

แม่รู้สึกเสียใจเวลาหนูตะโกนใส่กัน

ทำไมต้องร้องไห้งอแงอยู่ได้!

แม่เข้าใจว่าหนูเสียใจ อยากให้แม่ช่วยอะไรบอกได้นะลูก

อีกแล้ว! ทำหกอีกแล้ว! ทำไมไม่ระวังบ้างเลย!

หนูทำหกใช่ไหม ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรามาเช็ดด้วยกันนะ ครั้งหน้าค่อย ๆ ถือจะได้ไม่หกอีก

ห้ามเล่นโทรศัพท์แล้วนะ! พอได้แล้ว!

ถึงเวลาพักสายตาแล้วลูก เดี๋ยวเรามาเล่นเกมกระดานหรืออ่านนิทานด้วยกันดีกว่า

ทำไมไม่เคยฟังแม่เลย! แม่พูดกี่รอบแล้ว!

แม่รู้ว่าหนูอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่แม่อยากให้ลองฟังดูอีกครั้งนะ เพราะมันสำคัญกับหนูมากจริง ๆ

คำพูดเหล่านี้อาจจะดูไม่แตกต่างกันมากในความหมายและผลลัพธ์ แต่มีความแตกต่างอย่างยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของเด็ก ๆ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและมีคนเข้าใจ 

 

จับถูกมากกว่าจับผิด

เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้พฤติกรรมที่ดีจากคำชมที่จริงใจ หากลูกวางของเล่นให้เป็นระเบียบ ดังนั้น ลองเปลี่ยนจากเรดาร์การตรวจจับการกระทำผิด เป็นเรดาร์การตรวจการทำดีและการมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น 

สถานการณ์

คำพูดเชิงบวก

ลูกช่วยเหลือหรือมีน้ำใจกับผู้อื่น

  • แม่เห็นนะ ว่าหนูแบ่งขนมให้เพื่อน แม่ภูมิใจในความมีน้ำใจของหนูมากเลย
  • เมื่อกี้ที่หนูช่วยคุณยายถือของ แม่ดีใจมากเลย หนูเก่งและน่ารักมาก

เวลาลูกมีความพยายาม

  • แม้จะยาก แต่หนูก็ยังพยายามทำต่อ แม่ชอบความตั้งใจของหนูมากเลย
  • แม่เห็นว่าหนูฝึกเขียนตัวหนังสือทุกวันเลย หนูมีความพยายามมากนะจ๊ะ เก่งมาก ๆ เลย

ลูกแสดงความคิดสร้างสรรค์

  • ไอเดียหนูน่าสนใจมากเลยนะ แม่ชอบความคิดของหนูจริง ๆ
  • การวาดรูปของหนูวันนี้สวยและแปลกใหม่มาก หนูเก่งขึ้นทุกวันเลยนะลูก 

ลูกจัดการอารมณ์ตัวเองได้ดี

  • เมื่อกี้แม่เห็นหนูหายใจลึก ๆ เวลารู้สึกโกรธ แม่ดีใจมากที่หนูพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง
  • หนูใจเย็นมากเลยตอนที่น้องทำของเล่นหนูหาย แม่ชื่นชมความอดทนของหนูมาก ๆ เลย

คำชมเหล่านี้จะได้ผลมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้น้ำเสียงที่อบอุ่นและจริงใจ ไม่ใช่เพียงการชมแบบผ่าน ๆ ไป

 

เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก

อย่าลืมว่าเด็ก ๆ เรียนรู้จากพฤติกรรมของพ่อแม่มากที่สุด อย่างที่มีคนเคยบอกว่าลูกเป็นกระจกสะท้อนของเรา ดังนั้น หากว่าพร่ำสอนในสิ่งที่ดี แต่ไม่ได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ทั้งหมดที่เราสอนไปก็อาจจะเสียเปล่า ตัวอย่างพฤติกรรมทางบวกที่ควรฝึกทำเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี 

  • พูดจาใจเย็น มีเหตุและผล 
  • การขอโทษเมื่อทำผิด 
  • การแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลของพ่อแม่  
  • การเก็บของเป็นระเบียบ 
  • การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

 

ใช้เวลาคุณภาพกับลูกทุกวัน

สำหรับพ่อแม่ที่ทำงานหนัก อย่าเพิ่งท้อ เพราะคำว่าเวลาคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องนาน แต่ต้องเป็นเวลาที่ทำร่วมกันโดยไม่ใช้มือถือ เพียง 15-30 นาทีต่อวันก็เห็นผลลัพธ์ที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้แก่ทุกครอบครัว

ตัวอย่างกิจกรรมที่แนะนำ เช่น อ่านนิทาน ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร วาดรูป 

 

เปิดโอกาสให้ลูกพูดความคิดของตัวเอง

การฟังอย่างตั้งใจโดยไม่มีการตัดสินหรือขัดจังหวะ ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าความคิดและคำพูดของเขามีคุณค่า และมีความหมาย เรียนรู้ที่จะพูดจามีเหตุมีผล รวมถึงกล้าคิด กล้าพูด กล้าแสดงออกในทางที่เหมาะสม ดังนั้น พ่อแม่ควรอดทนและตั้งใจฟังจนจบอย่างตั้งใจ ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง เป็นหนึ่งในทัศนคติในการเลี้ยงลูกที่สำคัญ

 

สอนให้ลูกเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

พื้นฐานที่สำคัญของการเป็นคนที่ดี คือ การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่ใช่แค่ความฉลาดเพียงอย่างเดียว โดยสามารถสอนลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก เช่น เมื่อเพื่อนร้องไห้ ให้ถามลูกว่า “ถ้าหนูเป็นเพื่อนจะรู้สึกยังไง ?” เด็กจะเรียนรู้เรื่องความเห็นใจ การอยู่ร่วมกัน และการสร้างมิตรภาพ

พฤติกรรมเช่นนี้ เป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์ในใจเด็ก เมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นคนที่ไม่เอาเปรียบ และเคารพความหลากหลายได้อย่างดีเยี่ยม 

 

หลีกเลี่ยงการลงโทษด้วยความรุนแรง

หลายคนเติบโตมากับการทำผิดต้องโดนทำโทษ หรือการไม่เชื่อฟังจะถูกดุอย่างรุนแรง และคิดว่าต้องทำอย่างนั้นกับเด็ก ๆ แต่การเลี้ยงลูกเชิงบวกจะเปลี่ยนจากการตีหรือขู่ เป็นการตั้งขอบเขตอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น 

สถานการณ์

คำพูดเชิงบวก

ลูกไม่ยอมอาบน้ำ

“ถ้าหนูยังไม่อาบน้ำ ตอนเย็นนี้เราจะไม่มีเวลาเล่นเกมด้วยกัน” 

➡️เป็นการบอกผลลัพธ์ของการกระทำ 

ลูกกำลังเล่นเสียงดังรบกวนคนอื่น

“แม่เข้าใจว่าหนูสนุก แต่ตอนนี้พ่อกำลังประชุม เราไปเล่นในห้องข้างในดีกว่านะคะ” 

➡️เป็นการแสดงความเข้าใจในอารมณ์ลูกก่อน แล้วค่อยเสนอทางเลือกที่เหมาะสม

ลูกไม่ยอมเก็บของเล่น

“ของเล่นอยู่กับเราทุกวันเลยนะ ถ้าเราไม่ช่วยกันดูแล มันอาจจะพังได้ง่าย ๆ หนูอยากให้ของเล่นอยู่กับเราไปนาน ๆ ใช่ไหมคะ ?” 

➡️ เป็นการชวนให้ลูกรู้สึกเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองรัก

ทั้งหมดนี้คือการใช้วิธีโค้ชให้ลูกเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และควรทำอย่างไรในครั้งหน้า

 

ทัศนคติในการเลี้ยงลูกที่ดี เริ่มจากความเข้าใจตัวเอง 

อย่าลืมว่าพ่อแม่คือมนุษย์เช่นกัน การเลี้ยงลูกเชิงบวกไม่ได้หมายความว่าคุณต้อง “เพอร์เฟกต์” ตลอดเวลา แต่เป็นการเรียนรู้ เติบโต และพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับลูก ลองหาความรู้เพิ่มเติม และ

ใช้เวลาอยู่กับลูกในสิ่งที่รักร่วมกัน เช่น ทำสวน อ่านนิทาน หรือปั่นจักรยาน ก็ช่วยให้เด็ก ๆ สามารถเติบโตได้อย่างดีในแบบของตัวเอง

 

เปิดโอกาสให้บ้านจากเมซันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่อบอุ่น

บ้านที่ดี = จุดเริ่มต้นของครอบครัวที่อบอุ่น การเลี้ยงลูกเชิงบวกต้องอาศัยทั้ง “พื้นที่ปลอดภัย” และ “สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม” หากคุณกำลังมองหาบ้านที่รองรับครอบครัวอย่างแท้จริง แนะนำบ้านเดี่ยว โซนทวีวัฒนา จาก Maison Development

✅ ออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง

✅ มีสนามหญ้าและพื้นที่กิจกรรมที่เหมาะสำหรับเด็ก

✅ ตั้งอยู่ในย่านที่เงียบสงบ รายล้อมด้วยโรงเรียนและชุมชนคุณภาพ

✅ สภาพแวดล้อมปลอดภัย เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

บ้านคือรากฐานของชีวิตเด็ก เลือกบ้านที่พร้อมให้ความรัก ความเข้าใจ และการเติบโตที่งดงามกับครอบครัวของคุณ นัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการเลยที่ โทร  02-2953397-8

 

ข้อมูลอ้างอิง 

  1. Positive Parenting. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.unicef.org/cuba/en/positive-parenting 
  2. เลี้ยงลูกเชิงบวกยังไง มีวิธีพูดกับลูกเชิงบวกแบบไหนบ้าง. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.enfababy.com/blogs/baby-development-tips/positive-parenting?srsltid=AfmBOopqPOrkqe27vEpxO8OACaj8I7YX9s80GUUl6DR16Yi4TLUJoHR6 

Related Posts

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า