ความชื้นที่เหมาะสมในห้องนอน

9 วิธีลดความชื้นในห้อง ป้องกันห้องชื้นได้ด้วยตัวเอง

เรื่องAdminCustomer

       ความชื้นในอากาศไม่ใช่แค่เรื่องของสภาพอากาศ แต่ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตในบ้านโดยตรง หลายคนให้ความสำคัญกับเครื่องฟอกอากาศ แต่กลับมองข้ามเรื่อง “ความชื้นในห้อง” ทั้งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว หากความชื้นภายในบ้านสูงเกินไป อาจก่อให้เกิดเชื้อรา กลิ่นอับ ไปจนถึงปัญหาโรคระบบทางเดินหายใจ 

 

ความชื้นที่เหมาะสมในห้องต่าง ๆ ในบ้าน

การควบคุมความชื้นในบ้านให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งแต่ละห้องก็มีค่าความชื้นที่เหมาะสมที่แตกต่างกันออกไป

  • ความชื้นที่เหมาะสมในห้องนอน ควรมีความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity: RH) อยู่ที่ 30–50% หรือ 40–60% RH ซึ่งเป็นระดับที่ช่วยให้การหายใจสะดวก ลดอาการภูมิแพ้และการเจริญเติบโตของเชื้อรา ช่วยให้หลับลึกและตื่นมาสดชื่น
  • ความชื้นที่เหมาะสมในห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องอื่น ๆ อยู่ที่ 40–60% RH ช่วยให้รู้สึกสบายตัว ลดการสะสมของแบคทีเรียและไรฝุ่น โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุจะยิ่งเห็นผลชัดเจน

ข้อดีของการรักษาความชื้นในห้องให้อยู่ในช่วงนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพ แต่ยังยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย

 

ผลกระทบของความชื้นสูงเกินไป

รู้หรือไม่ว่า หากความชื้นภายในห้องสูงเกินกว่า 60% RH จะเกิดผลเสียหลายด้านทั้งต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและโครงสร้างบ้าน ดังนี้

ผลกระทบต่อสุขภาพ

  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคภูมิแพ้ และโรคระบบทางเดินหายใจ
  • หายใจไม่สะดวก เกิดอาการไอ จาม หรือเจ็บคอ
  • ผิวแห้ง คัน หรือเกิดผื่น
  • ทำให้คุณภาพการนอนหลับแย่ลง ตื่นกลางดึกหรือหลับไม่สนิท

ผลกระทบต่อตัวบ้าน

  • เชื้อราและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีในความชื้นสูง เกิดคราบเชื้อราตามผนัง ฝ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้
  • เกิดกลิ่นอับในห้องหรือเสื้อผ้า
  • เฟอร์นิเจอร์บวม สีหลุดลอก อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายเร็วกว่าปกติ
  • สปอร์เชื้อราและไรฝุ่นเป็นภัยคุกคามสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืด

 

9 วิธีลดความชื้นในห้องอย่างได้ผล

บ้านใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องความชื้น ต้องการลดความชื้นในห้อง สามารถทำตามวิธีดังต่อไปนี้ได้ 

1. ใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier)

เครื่องลดความชื้นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับห้องที่ไม่มีหน้าต่างหรือมีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องเก็บของ หรือห้องใต้ดิน โดยจะช่วยรักษาระดับ RH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมและลดโอกาสเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย

2. เปิดหน้าต่างและระบายอากาศ

หากว่าห้องดังกล่าวมีหน้าต่าง การเปิดหน้าต่างหรือช่องลมให้กว้างในช่วงเช้าและเย็น ก็ช่วยให้อากาศถ่ายเท ลดการสะสมของความชื้นในห้องได้ดี  ดังนั้น เวลาซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมก็ให้เลือกบ้านที่มีหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก

3. ติดตั้งพัดลมดูดอากาศหรือพัดลมระบายอากาศ

สำหรับห้องน้ำหรือห้องครัวที่มีความชื้นสูง อาจจะทำให้เกิดความชื้นและเชื้อราได้ง่าย ดังนั้นให้ติดตั้งพัดลมดูดอากาศหรือพัดลมระบายอากาศ เพื่อลดโอกาสเกิดเชื้อราและกลิ่นอับภายในห้องอย่างมีประสิทธิภาพ

4. หลีกเลี่ยงการตากผ้าในห้อง

การตากผ้าในห้องจะเพิ่มความชื้นในอากาศโดยตรง หากจำเป็นต้องตากผ้าในบ้าน ควรเลือกห้องที่มีระบบระบายอากาศที่ดีหรือใช้เครื่องลดความชื้นร่วมด้วย

5. ใช้สารดูดความชื้นธรรมชาติ

เช่น ถ่านไม้ เบกกิ้งโซดา หรือสารดูดความชื้นแบบกล่อง วางไว้ตามมุมห้อง ตู้เสื้อผ้า หรือจุดที่อับชื้น เป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยลดความชื้นในห้องขนาดเล็กหรือห้องที่ไม่มีหน้าต่างระบายอากาศได้ดี

6. ตรวจสอบรอยรั่วซึมในบ้าน

น้ำรั่วจากหลังคาหรือผนังร้าวจะทำให้ความชื้นสะสมโดยไม่รู้ตัว ควรตรวจสอบและแก้ไขจุดที่รั่วซึม เพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว

7. เปิดม่านรับแสงแดดธรรมชาติอยู่เสมอ

การเปิดม่านหรือหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง เป็นอีกหนึ่งวิธีลดความชื้นในห้องและฆ่าเชื้อโรคในอากาศ นอกจากนี้แสงแดดยังช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งและสดชื่นขึ้นอีกด้วย

8. วางต้นไม้ที่ช่วยดูดความชื้น

ต้นไม้บางชนิด เช่น ลิ้นมังกร พลูด่าง สามารถช่วยดูดซับความชื้นในอากาศได้ แต่ควรวางในตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทสะดวก

9. รักษาความสะอาดและเป็นระเบียบ

หมั่นทำความสะอาดห้อง กวาด ถู ดูดฝุ่น ใต้เตียง ใต้ตู้ เช็ดคราบน้ำตามพื้น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ และซักผ้าปูที่นอน ผ้าม่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อราและกลิ่นอับ

 

หมดกังวลเรื่องปัญหาบ้านชื้น เมื่อเลือกโครงการบ้านจากเมซัน

เพื่อให้การใช้ชีวิตของคุณและครอบครัวเป็นไปอย่างอุ่นใจในทุกฤดู ควรเลือกบ้านที่มีการจัดวางพื้นที่อย่างเหมาะสม และดูแลได้ง่าย เลือกบ้านเดี่ยว พระราม 2 จาก Maison Development ที่ออกแบบและก่อสร้างบ้านอย่างพิถีพิถัน ลดปัญหาความชื้นในห้อง

✅ วัสดุก่อสร้างคุณภาพ วางแปลนบ้านเน้นช่องแสงธรรมชาติ

✅ ใช้วัสดุกันความชื้นที่ได้มาตรฐาน ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อราในระยะยาว

✅ ทำเลปลอดภัย พร้อมพื้นที่สีเขียว

สนใจนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการเลย โทร 02-2953397-8  

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. 5 วิธีลดความชื้นในห้อง ด้วยวิธีง่ายๆ ป้องกันห้องชื้นได้ด้วยตัวคุณเอง. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 จาก https://bwell.co.th/blog/knowledge/5-humidity-hacks-to-beat-the-damp/

Related Posts

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า