เปิด 5 วิธีทำให้ห้องเย็นแบบไม่ต้องลงทุนเยอะ ช่วงหน้าร้อน

       ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนเกือบทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงจนส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้ง ค่าไฟพุ่งสูงจากการใช้เครื่องปรับอากาศ และปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะฮีตสโตรก (Heat Stroke) นอกจากนี้ ห้องที่ร้อนอบอ้าวยังทำให้คุณภาพการนอนลดลง และส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น เราจึงต้องหาวิธีคลายร้อนที่ได้ผลจริงและช่วยลดค่าไฟไปพร้อมกัน

5 วิธีทำให้ห้องเย็นสบายในช่วงหน้าร้อน

ที่จริงวิธีลดความร้อนในห้องไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจ ทั้งเรื่องการไหลเวียนของอากาศ การสะท้อนความร้อน การเพิ่มความชุ่มชื้น ไปจนถึงการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีหลักการง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ 

1. ปรับการไหลเวียนของอากาศ

การปรับการไหลเวียนของอากาศ เป็นวิธีลดความร้อนในห้องที่ทำได้ง่าย ๆ  ด้วยการเปิดหน้าต่างในช่วงเช้าและเย็น เพื่อให้ลมพัดผ่านและระบายอากาศร้อนออกจากห้อง ควบคู่กันกับการเปิดพัดลมระบายอากาศเพื่อช่วยให้เกิดอากาศถ่ายเทมากยิ่งขึ้น 

หลักการสำคัญคือ ต้องวางพัดลมในมุมที่สามารถดึงลมเย็นจากภายนอกเข้ามาได้ ประกอบกับการใช้พัดลมเพดานเพื่อดูดอากาศร้อนขึ้นสู่ด้านบน หรือเลือกใช้พัดลมดูดอากาศในการระบายความร้อนออกจากบ้าน

2. ใช้วัสดุสะท้อนความร้อน

แม้บ้านที่เต็มไปด้วยกระจกหน้าต่างจะนำพาทิวทัศน์ที่สวยงามจากธรรมชาตินอกบ้านเข้าสู่ในบ้าน ในขณะเดียวกันก็ย่อมนำพาแสงแดดและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงต้องเลือกใช้วัสดุสะท้อนความร้อนเพื่อช่วยทำให้บ้านเย็นลง ดังนี้

• ติดฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง เพื่อลดแสงแดดและรังสีความร้อนที่เข้ามาในบ้าน มีให้เลือกหลากหลายทั้งฟิล์มเซรามิก ฟิล์มดำ ฟิล์มใสกันร้อน ฟิล์มปรอท และฟิล์มนิรภัยโดยหากว่าเราต้องการเลือกฟิล์มกรองแสงบ้านและอาคารที่ช่วยประหยัดพลังงาน เราสามารถเลือกฟิล์มกรองแสงที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากกระทรวงพลังงาน ซึ่งการันตีว่าสามารถประหยัดพลังงานได้จริง 
• ใช้ม่านกัน UV หรือม่านทึบแสง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ผ้าม่านแบล็กเอาต์ (Blackout) ช่วยลดการสะสมความร้อนภายในห้อง โดยป้องกันแสงจากธรรมชาติอย่างแสงแดด และแสงจากดวงไฟส่องสว่างต่าง ๆ ไม่ให้ผ่านทะลุผ่านเนื้อผ้าเข้ามาได้  จึงเหมาะสำหรับติดตั้งในห้องนอน หรือห้องที่ต้องการความมืดสนิท หรือห้องที่ไม่ต้องการให้แสงและรังสีความร้อนผ่านเข้ามาได้
• ปูพรม เพื่อป้องกันความร้อนสะสมจากพื้นกระเบื้องหรือปูน ในห้องที่มีแสงแดดส่องเข้ามาโดยตรง เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ช่วยลดความร้อนสะสมจากพื้นกระเบื้องหรือปูนและทำให้ห้องรู้สึกเย็นสบายขึ้น โดยให้เลือกพรมที่ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวน เช่น ไนลอน หรือโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีความทนทานและไม่สะสมความร้อน และควรใช้พรมสีอ่อนหรือสีที่สะท้อนแสง และไม่ดูดซับความร้อน อย่าง สีขาว ครีม หรือสีเทาอ่อน

3. ปลูกต้นไม้

การปลูกต้นไม้ในบ้านไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับสภาพแวดล้อม แต่ยังช่วยลดความร้อนภายในบ้าน พร้อมทั้งสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและเย็นสบาย ซึ่งต้นไม้สามารถช่วยลดอุณหภูมิและทำให้พื้นที่อยู่อาศัยมีความน่าอยู่มากขึ้น โดยมีเคล็ดลับดังต่อไปนี้ 

• ปลูกต้นไม้บริเวณหน้าต่าง หรือใช้ไม้เลื้อยช่วยลดความร้อนจากแสงแดด โดยต้นไม้จะทำหน้าที่เหมือนกำแพงกรองแสงก่อนที่จะถึงตัวบ้านอีกทีหนึ่ง หากบ้านใดไม่มีพื้นที่ด้านข้างมากพอที่จะปลูกต้นไม้ การปลูกไม้เลื้อยประเภทตีนตุ๊กแกที่เกาะตามผนังบ้าน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ 

• ปลูกต้นไม้ในห้องเพื่อเพิ่มความชื้นและลดอุณหภูมิภายในห้อง นอกเหนือจากการเพิ่มสีเขียวในตัวบ้านและช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องแล้ว ก็ยังช่วยฟอกอากาศจากสภาวะฝุ่น PM 2.5  ต้นไม้ฟอกอากาศที่นิยมปลูกและดูแลง่ายมีหลายชนิด เช่น มอนสเตอรา พลูด่าง ยางอินเดีย ลิ้นมังกร  

• ทำสวนแนวตั้งหรือ Green Wall บริเวณระเบียงเพื่อช่วยดูดซับความร้อน ใช้พื้นที่น้อยและดูแลง่าย เพียงติดตั้งระบบน้ำหยดก็แทบไม่ต้องเสียเวลาในการดูแลแล้ว ส่วนสำหรับบ้านแบบตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ที่มีชั้นดาดฟ้า แนะนำให้ทำสวน Roof Garden ซึ่งจะช่วยลดความร้อนที่สะสมในหลังคาคอนกรีตลงได้อีกทางหนึ่ง

4. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยลดความร้อน

รู้หรือไม่ว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ปล่อยรังสีความร้อนออกมาเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อนต่ำ เพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน 

• ใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไส้ ลดการปล่อยความร้อนภายในห้อง เป็นหลอดไฟที่ใช้พลังงานต่ำแต่ให้ความสว่างสูง ที่สำคัญไม่ทำให้อุณหภูมิภายในห้องสูงขึ้นด้วย เพราะการทำงานของหลอดไฟ LED จะไม่มีการเผาไส้หลอด จึงปล่อยความร้อนออกมาน้อยและใช้พลังงานที่ต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหลอดไส้ หรือหลอดฮาโลเจน 

• เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า SEER สูง ช่วยประหยัดไฟและลดความร้อนสะสม ค่า EER และ SEER  ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของแอร์ว่าดีหรือไม่ มีหน่วยเป็น (Btu/hr.)/W ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ก็หมายถึงว่า แอร์มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานได้ดีเท่านั้น แปลว่าประหยัดไฟมากนั่นเอง 

• ใช้พัดลมไอเย็นแทนแอร์ในวันที่อากาศไม่ร้อนมาก หลีกเลี่ยงการเปิดเครื่องปรับอากาศในวันที่ไม่ร้อนมากเพื่อประหยัดค่าไฟ ด้วยการเปิดพัดลมไอเย็นแทนได้  ซึ่งพัดลมไอเย็นทำงานด้วยระบบ Evaporative Cooling Systems หรือการนำอากาศร้อนผ่านแผงรังผึ้ง หรือแผ่นทำความเย็น (Cooling Pad) ที่มีน้ำเย็นหล่ออยู่ แล้วน้ำก็จะระเหยและเปลี่ยนเป็นไอเย็น เลยทำให้แรงลมที่ส่งผ่านออกมาเย็นสดชื่นและรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าพัดลมทั่วไป อีกทั้งยังช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องลดลงได้ประมาณ 2-8 องศาเซลเซียส จึงทำให้พื้นที่โดยรอบรู้สึกเย็นสดชื่น โดยไม่มีความชื้นในอากาศ เหมาะสำหรับใช้ภายในบ้านในวันสบาย ๆ ที่ไม่ต้องการเปิดเครื่องปรับอากาศ

5. ใช้วิธีธรรมชาติช่วยลดความร้อน

นอกจากวิธีที่กล่าวมาแล้ว เรายังมีวิธีทำให้ห้องเย็นและแก้ห้องนอนร้อนง่าย ๆ ใช้งบประมาณไม่มากมาฝากกันอีกด้วย 

• ใช้ขวดน้ำแช่แข็งวางไว้หน้าโต๊ะพัดลมเพื่อเพิ่มความเย็น โดยใส่น้ำ 2 ขวด ไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น จนกว่าน้ำด้านในจะกลายเป็นน้ำแข็ง และนำขวดน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งทั้ง 2 ขวดออกมา ใส่ไว้ในถังโลหะแล้วตั้งทิ้งไว้ในห้องควบคู่กับการเปิดพัดลมให้ลมพัดผ่าน เพียงทำเช่นนี้ห้องก็จะแห้งและเย็นขึ้น โดยเกิดจากกระบวนการลดความชื้นในอากาศ ที่ควบแน่นเป็นหยดน้ำขนาดเล็ก เนื่องจากการสัมผัสกับพื้นผิวเย็นของขวดน้ำ และหากต้องการให้ห้องเย็นลงมากกว่านี้อีกก็สามารถเพิ่มจำนวนขวดน้ำได้

• ใช้ผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าเย็นช่วยให้หลับสบาย โดยผ้าฝ้ายมีคุณสมบัติเด่นคือความนุ่มและยืดหยุ่นได้ดี ทนทาน และระบายความร้อนได้ดี  การผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน หรือชุดเครื่องนอนที่ทำจากผ้าฝ้าย จึงช่วยให้นอนหลับสบายและไม่ร้อน

• อาบน้ำก่อนนอนและใช้ผ้าขนหนูเปียกเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ห้องนอนร้อน อีกทางหนึ่ง ซึ่งหากใช้ร่วมกันกับการใช้ขวดน้ำแช่แข็งวางไว้หน้าโต๊ะพัดลมเพื่อเพิ่มความเย็น และการใช้ผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนที่ทำจากผ้าฝ้าย ก็จะช่วยให้หลับสบายได้มากขึ้น

ซื้อทาวน์โฮมจากเมซัน ร่มรื่น อยู่สบาย

สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ช่วยลดความร้อนและประหยัดพลังงาน ขอแนะนำโครงการ M Life (สุขุมวิท-บางปู87) ทาวน์โฮมพร้อมอยู่ย่านบางปู ที่ออกแบบให้มีลมไหลเวียนภายในบ้าน ช่วยลดความร้อนได้เป็นอย่างดี 

สนใจนัดหมายเยี่ยมชมโครงการวันนี้เลย  โทร 02-2953397-8

 ข้อมูลอ้างอิง

1. 10 วิธีลดอุณหภูมิภายในบ้าน เย็นได้ไม่ง้อแอร์.  สืบค้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 จาก https://home.kapook.com/view92823.html

2. เลือกแอร์ให้ประหยัดไฟ ต้องดูที่อะไรบ้าง?.  สืบค้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 จาก https://carrierthailand.com/carrier-article/choose-the-right-air-forsaving/